ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ ใส่เเล้วเวียนหัว ปวดหัว เกิดจากอะไร แก้ไขยังไง?

ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้

 

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คน เลือกที่จะไม่ซื้อแว่น หรือตัดแว่น ถึงแม้ว่าจะเริ่มประสบปัญหาด้านสายตา โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาสายตาสั้น ยาว หรือสายตาเอียง เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองประสบปัญหาด้านสายตาก็เกิดอาการ กลัวที่จะใส่แว่นสายตา ใส่แว่นไม่ตรง ค่าสายตา กลัวว่า หากซื้อแว่นตา หรือตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ ใส่แล้วเวียนหัว มีอาการปวดหัว ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดได้เอง แต่มีสาเหตุมาจากอะไร และมีวิธีแก้ไขได้ยังไงบ้าง ทางเราได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้แล้วครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง

สาเหตุของอาการปวดหัวมึนหัว เมื่อใส่แว่นตาที่ตัดมาแล้วใช้ไม่ได้

1.ใส่แว่นครั้งแรก แล้วเกิดอาการปวดตา เกิดจากการที่ดวงตาของคุณยังไม่คุ้นชินกับการมองผ่านแว่นตา

สำหรับผู้ที่เพิ่งเคยใส่แว่นเป็นครั้งแรก หรือเปลี่ยนแว่นตาใหม่ ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ มีการปรับค่าสายตาของเลนส์ใหม่ ใส่แว่นไม่ตรง ค่าสายตา ในส่วนนี้เกิดจากการที่ดวงตาของคุณยังปรับโฟกัสการมองเห็นไม่ได้ (ปรับให้เข้ากับตัวเลนส์) ยังไม่เกิดความเคยชินของดวงตา ทั้งนี้รวมไปถึงการที่ลักษณะของกรอบแว่นตา มีบางส่วนที่บดบังสายตา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างถนัด ทั้งหมดนี้ เป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณเกิดอาการปวดตา เวียนหัว ไม่สามารถใช้สายตาได้นานๆ ในขณะที่สวมใส่แว่นตา

วิธีแก้ : ไม่ต้องกังวลไป เพราะสาเหตุข้อนี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการใส่แว่นตาที่ตัดมาใหม่ ไปสักช่วงระยะเวลานึง 1-2 วัน คอยสังเกตุดูการมองเห็นของคุณ จะพบว่า ดวงตาของคุณเริ่มคุ้นชินกับการมองเห็น และไม่เกิดอาการเวียนหัว ปวดหัวอย่างที่เคย

2. เกิดจากเลือกใช้เลนส์แว่นตาที่ไม่เหมาะกับค่าสายตาของคุณ หรือแว่นตาที่ได้ ไม่พอดีกับค่าสายตา

ต้องอธิบายก่อนว่า เมื่อเราไปวัดสายตาตามร้านแว่นตา หรือไปหาหมอที่ โรงพยาบาล ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้

“ค่าสายตาที่ตรวจวัดได้ กับค่าสายตาที่นำมาใช้ประกอบการเลือกเลนส์แว่นตานั้น จะไม่ตรงกันทั้งหมด” มีสาเหตุเนื่องจากว่า ดวงตาของเราทุกคน มีความอ่อนไหว และมีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างกันไปในแต่ละคน

  • ในคนที่มีค่าสายตาทั้ง 2 ข้าง แตกต่างกันมากมาก

ปัญหา ตัดแว่นใส่ไม่ได้ เมื่อใส่แว่นตา จะส่งผลให้สมองรับรู้ขนาดภาพจากตาทั้งสองต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากเลนส์ที่เลือกใช้ เช่น ดวงตาข้างขวาสายตาสั้น 200 ดวงตาข้างซ้ายสายตาสั้น 150 ซึ่งเมื่อเราใช้ดวงตา มองทั้ง 2 ตาพร้อมกัน อาจทำให้เกิดภาพซ้อน ส่งผลให้เราเกิดอาการมึนหัว เวียนหัว เพราะตาข้างที่สั้นมากกว่าจะเห็นภาพเล็กกว่าตาอีกข้างเนื่องจากเลนส์เว้า มีผลทำให้ภาพที่เห็น ไม่ตรงกับความเป็นจริง ภาพที่เห็นมีขนาดเล็ก

  • ในคนที่มีค่าสายตาเอียง

ในคนจำพวกนี้ จะมีค่าสายตาที่เปราะบาง อ่อนไหวที่สุด สำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปรับตัว ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ เพราะการหักเหของแสงที่มีมากกว่า 1 แกนโฟกัสคนล่ะจุดบนจอประสาทตา และยังมีองศากำกับแกนเอียงที่ต้องแม่นยำ การเเก้ไขด้วยเลนส์แว่นตาจึงต้องละเอียดอ่อน เพราะหากผิดผลาดเพียงเล็กน้อยจะทำให้ผู้สวมใส่แว่นรู้สึกได้ว่า พื้นดูลอยๆ ประตูเอียงหรือเบี้ยว

  • ในคนที่ค่าสายตาเพิ่มขึ้นจากแว่นเดิม

บางคนค่าสายตาเพิ่มขึ้นเพียง 1 สเต็ป ( หรือ 0.25 diopter ) ก็สามารถรู้สึกรับรู้ได้ทันที จึงทำให้ในช่วงแรกที่สวมใส่แว่นตา อาจทำให้รู้สึกแปลกตา หรือมีอาการมึน พื้นลอย เนื่องจากภาพดูชัดขึ้น และเข้มขึ้น

วิธีแก้ : เลือกใช้บริการจากร้านแว่นตาที่ให้บริการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด เชี่ยวชาญด้านสายตา มีความซื่อตรง พร้อมให้คำแนะนำแก่ลูกค้า ใช้เวลากับลูกค้า ในการให้ลูกค้าลองเลนส์แว่นตา ค่าสายตาต่าง ๆ ก่อนจะนำไปประกอบแว่นตาให้แก่ลูกค้า เพื่อแก้ไขปัญหาตัดแว่นใส่ไม่ได้

3.เกิดจากความผิดพลาดของค่าพารามิเตอร์ที่ใช้ในการประกอบแว่นตา

ในข้อนี้ ร้านแว่นตา หรือช่างแว่นที่ประกอบแว่นตา จะพิจารณา ตัดแว่นใส่ไม่ได้ ค่าพารามิเตอร์ที่สำคัญ ๆ ซึ่งส่งผลในการมองเห็นต่างๆ ซึ่งค่าพารามิเตอร์เหล่านี้แหละ ที่เราจะมาดูกัน

  • ค่าจุดกึ่งกลางตาดำ หรือ PD ที่วัดได้ ไม่ตรงกับค่าจุดกึ่งกลางของเลนส์ : ส่งผลทำให้เกิดปรากฏการณ์ Prism effect ทำให้ใส่แว่นตาเเล้วไม่สบายตา มองเห็นภาพซ้อน เกิดอาการมึนหัว
  • ค่าระยะห่างจากกระจกตาถึงหลังเลนส์ หรือ CVD ที่ใช้ในการประกอบแว่นตา มีค่าน้อยไป หรือมากเกินไป

หากเเว่นตา อยู่ห่างจากหน้า หรือชิดหน้ามากเกินไป ตัดแว่นใส่ไม่ได้ จะส่งผลต่อกำลังค่าสายตาของเลนส์แว่น โดยหากแว่นห่างหน้าเกินไป จะทำให้ค่าสายตาที่ได้ เป็นค่าสายตาลบ หรือที่เราเรียกกันว่า สายตาสั้น น้อยลง แต่หากแว่นตาอยู่ชิดหน้ามากเกินไปค่าสายตาที่วัดได้ เป็นค่าสายตาลบ หรือ สายตาสั้น มากขึ้น 

*ยกตัวอย่าง* เช่น สายตาสั้น 500 ใส่ห่างหน้าเกินไปอาจเหลือสั้น 450 ส่งผลทำให้ การมองเห็นไม่คอยชัด แต่หากใส่แว่นตา ชิดหน้าเกินไปจากสั้น 500 อาจจะกลายเป็น 550 ส่งผลให้ภาพชัดเกินไป จนทำให้เกิดอาการไม่สบายตา

  • มุมเทหน้าแว่นและ ความโค้งหน้าแว่นไม่พอดี

หากมุมเทหน้าแว่นเทหรือโค้งหน้าเเว่นมากหรือน้อยเกินไปจะส่งผลต่อมุมมอง และค่าสายตาที่คลาดเคลื่อน โดยค่าพารามิเตอร์ที่คลาดเคลื่อนอาจเกิดจากการวัดที่คลาดเคลื่อนหรือแว่นที่ไม่กระชับแว่นหลวมจนไหลหรือแน่นเกินไป ระนาบหน้าแว่นไม่สมดุล จึงส่งผลต่อการมองเห็นที่ไม่สบายตา พื้นดูเอียงๆ หรือลอย ไม่เป็นธรรมชาติ จึงทำให้ใส่แล้วเวียนหัว ใส่แว่นไม่ตรง ค่าสายตา

วิธีแก้ : เลือกใช้บริการตัดแว่นตา แว่นสายตา กับทางร้านที่มีมาตรฐาน ละเอียดเชื่อถือได้ มีใบรับรองหรือมีนักทัศนมาตร โดยนักทัศนมาตรจะต้องปรับแต่ง ดัดแว่นตาให้พอดี เหมาะสม เข้ากับกับรูปหน้าลูกค้าทุกครั้ง ไม่ให้หลวมหรือแน่นเกินไป ก่อนที่จะวัดค่าพารามิเตอร์ และควรวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เพื่อคำนวณ เปรียบเทียบว่าค่าพารามิเตอร์ที่วัดได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ หากไม่ อาจใช้การดัดแว่นช่วย แต่หากไม่สามารถทำได้ ต้องพิจารณาใช้เป็นเลนส์ที่มีโครงสร้างสูงขึ้นเพื่อให้รองรับกับกรอบแว่นและค่าพารามิเตอร์ของลูกค้า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้

เมื่อเราเข้าสู่วัยสูงอายุหรือมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับดวงตา ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ เป็นอาการหนึ่งที่อาจพบได้ มันเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบการมองเห็นของเรากำลังมีปัญหา และอาจนำไปสู่ความพิการทางสายตาหากปล่อยปละละเลยไม่รับการรักษา

มีหลายสาเหตุที่อาจทำให้เกิดปัญหานี้ ได้แก่

  1. โรคต้อกระจก เป็นภาวะที่เลนส์ตาหรือกระจกตาเสื่อมสภาพและขุ่นมัว ทำให้ภาพที่ตกกระทบบนจอประสาทตาพร่ามัวหรือบิดเบี้ยว แม้จะใส่แว่นสายตาแล้วก็ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน โรคต้อกระจกมักพบในผู้สูงอายุ เนื่องจากเลนส์ตามีการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา
  2. โรคจอประสาทตาเสื่อม เป็นภาวะที่จอประสาทตาซึ่งเป็นเยื่อบางๆ ด้านหลังของลูกตาผิดปกติหรือถูกทำลาย ทำให้ภาพที่ตกกระทบที่จอประสาทตาผิดเพี้ยนไป โรคนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคจอประสาทตาจากเบาหวาน ภาวะจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากอายุมาก เป็นต้น
  3. โรคน้ำตาไหลย้อนกลับ ภาวะน้ำตาไหลย้อนกลับหรือไหลล้น เนื่องจากท่อน้ำตาอุดตัน ทำให้น้ำตาไหลนองบนแก้วตา เกิดริ้วรอยบนกระจกตา และทำให้ภาพที่มองเห็นพร่ามัว
  4. โรคมะเร็งในจอประสาทตา เป็นภาวะร้ายแรงที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการมองเห็น มะเร็งอาจเกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อต่างๆ ในลูกตา รวมถึงจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นคลุมเครือหรือมองไม่เห็นในที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการ ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ เช่น โรคสายตาเลือนรางจากการเสื่อมของกล้ามเนื้อควบคุมการทำงานของดวงตา ภาวะสายตาพร่ามัวจากโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดในจอประสาทตาอุดตัน เป็นต้น

การตรวจวินิจฉัย เมื่อพบอาการ ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ ควรรีบพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง การตรวจร่างกายทั่วไปอาจได้แก่ การตรวจวัดสายตา การถ่ายภาพจอประสาทตา การตรวจความดันตาเพื่อวินิจฉัยโรคต้อกระจก เป็นต้น

นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น

  • การตรวจวัดการไหลเวียนของหลอดเลือดในจอประสาทตา
  • การถ่ายภาพความหนาของจอประสาทตาด้วยคลื่นควอนตัม
  • การตรวจหาความผิดปกติของกระจกตาด้วยเครื่องถ่ายภาพชนิดพิเศษ
  • การตรวจคลื่นสมองเพื่อประเมินการทำงานของระบบประสาท เป็นต้น

เคล็ดลับป้องกันและแก้ไขอาการปวดหัวจากการ “ใส่แว่นแล้วปวดหัว”

ใส่แว่นแล้วปวดหัว

ปัญหา ใส่แว่นแล้วปวดหัว เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่ต้องสวมใส่แว่นตาเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะสร้างความรำคาญใจแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานและคุณภาพชีวิตได้อีกด้วย อาการปวดศีรษะจากการสวมแว่นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการปรับค่าสายตาผิดพลาด แว่นที่ไม่เหมาะสม หรือท่าทางการสวมใส่ที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงมีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ได้

เคล็ดลับที่ 1: ตรวจสอบประวัติและรับการปรับค่าสายตาอย่างถูกวิธี

การตรวจสายตาที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญเพื่อป้องกันปัญหา ใส่แว่นแล้วปวดหัว ควรเข้ารับการตรวจสายตากับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง และควรทำการปรับเปลี่ยนแว่นตามความจำเป็นเมื่อสายตาเปลี่ยนแปลงไป การตรวจสายตาที่ละเอียดถี่ถ้วนจะทำให้สามารถประเมินและกำหนดค่าสายตาที่เหมาะสมที่สุด รวมถึงปรับค่าอานิสงค์ของแว่นอย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการปวดหัวได้เป็นอย่างดี

เคล็ดลับที่ 2: เลือกซื้อแว่นตาคุณภาพดีที่มีความกระชับพอดี

ปัจจัยสำคัญอีกประการคือคุณภาพและความเหมาะสมของแว่นตาที่ใช้ โดยแว่นที่ดีควรมีกรอบที่สะดวกสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป มีน้ำหนักเบา และทำจากวัสดุคุณภาพสูงที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อีกทั้งขนาดของกรอบแว่นจะต้องพอดีกับรูปหน้าของผู้สวมใส่ ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยลดแรงกดทับและให้ความรู้สึกสบายตาขณะสวมใส่แว่น ก่อนเลือกซื้อจึงแนะนำให้ลองสวมแว่นหลายรุ่นและขนาด พร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญร้านจำหน่ายแว่นที่มีความรู้และประสบการณ์ เพื่อหารุ่นที่พอดีและเหมาะสมที่สุด

เคล็ดลับที่ 3: รักษาท่าทางการสวมแว่นอย่างถูกต้อง

การสวมแว่นด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการปวดหัว ดังนั้นจึงควรหมั่นตรวจสอบท่าทางการสวมแว่นของตนเองเป็นประจำ เริ่มต้นด้วยการจัดให้กรอบแว่นตั้งฉากกับใบหน้า ไม่เอียงหรือคดงอ และควรอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป แว่นควรอยู่ในระดับของสายตาปกติ นอกจากนี้ควรมีการปรับความกระชับของหูแว่นเป็นระยะ เพื่อให้แนบพอดีโดยไม่รัดแน่นจนเกินไป และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างที่อาจทำให้กรอบแว่นขยับหรือหลุดบ่อยครั้ง เช่น ขยับแว่นบ่อย หรืองับศีรษะ

เคล็ดลับที่ 4: พักสายตาเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับผู้ที่ต้องใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์ หรือบางสิ่งเป็นเวลานาน ๆ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการปวดหัวตามมาสูง ดังนั้นจึงควรตั้งเครื่องปลุกเตือนสำหรับพักสายตาทุกๆ 20-30 นาที โดยให้ละสายตาจากจอหรือสิ่งที่จ้องอยู่ หลับตาผ่อนคลายสักประมาณ 5-10 นาที เพื่อคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อรอบดวงตา อีกวิธีหนึ่งคือปรับองศาการมองให้สบายตามากขึ้น

 

ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ ใส่แว่นแล้วปวดหัว ปัญหาเหล่านี้จะหายไป เมื่อคุณมาที่ร้านของเรา 

ร้านของเรามีระบบ Try-ON System โดยทีมงานของเราได้คัดสรรโครงสร้างเลนส์ที่มีการใช้งานจากลูกค้า แล้วเกิดไขปัญหา ตัดแว่นใส่ไม่ได้ ด้านสายตาได้จริงๆ ใส่ลงไว้ในกรอบแว่นทดลอง (Trial Frame) ประกบเข้าไปบนค่าสายตาที่ผ่านการวัดสายตา ผ่านระบบดิจิตัลเทส รวมทั้งขั้นตอนในการวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ที่ใช้ในการประกอบแว่นตา ทางเราจะมีชุดกรอบแว่นตาทดลอง พร้อมเลนส์แว่นตาค่าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เลนส์แว่นตา rodenstock ให้คุณลูกค้าได้ทดลองสวมใส่ และใช้งานจริง เพื่อทดสอบการมองเห็นผ่านเลนส์แว่นตาในค่าต่าง ๆ ทุกระยะการมองเห็น ไม่ว่าจะมองไกล มองใกล้ หรือมองกลาง สามารถตอบได้เลยว่า โครงสร้างเลนส์ โครงสร้างแว่นตารุ่นนี้ โอเคไหม? เหมาะกับดวงตาของคุณลูกค้าหรือไม่? ใส่แว่นไม่ตรง ค่าสายตา

ตัดแว่นใส่ไม่ได้

ข้อสรุปของการที่ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้ ตัดแว่นใส่ไม่ได้

ตัดแว่นใส่ไม่ได้ เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบการมองเห็น สาเหตุมีได้หลายประการตั้งแต่โรคต้อกระจก โรคจอประสาทตา โรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท หรือแม้แต่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งในลูกตา ทุกครั้งที่ตัดแว่นตา ตัดแว่นสายตาอันใหม่ จะต้องมีการปรับสภาพดวงตา หรือสายตาก่อนเสมอ เพื่อให้รองรับกับเลนส์แว่นตาอันใหม่ ซึ่งเวลาในการปรับตัวของแต่ละคนไม่เท่ากัน ณ จุดนี้ ทางร้านของเราเองก็พร้อมซัพพอร์ตให้คำแนะนำ และคำปรึกษาเต็มที่ หากทางลูกค้าพบเจอปัญหา ตัดแว่นใส่ไม่ได้ ซึ่งหากคุณเพิ่งตัดแว่นใหม่ ในการสวมใส่ครั้งแรก ใส่แว่นไม่ตรง ค่าสายตา อาจเกิดอาการเวียนหัวบ้าง แต่อาการค่อยๆ ดีขึ้น นับจากวันแรกๆ ที่สวมใส่แว่นตา นั้นเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งแสดงว่าดวงตาและสมองค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับแว่นตาได้แล้ว แต่หากใส่เเล้วรู้สึกว่าไม่ชัด ตึงตา ภาพดูลอยๆ ไม่เป็นธรรมชาติ แม้จะลองใส่และปรับตัวตลอดทั้งวันมา 1-2 สัปดาห์  การวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องตามคำแนะนำของจักษุแพทย์จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่จะสูญเสียการมองเห็น ขณะเดียวกันการปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลสุขภาพดวงตา ก็จะช่วยชะลอความเสื่อมของสายตาได้ในระดับหนึ่ง

ปัญหา ตัดแว่นใส่ไม่ได้ จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เนื่องจากการมองเห็นเป็นประสาทสัมผัสที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิต การสูญเสียการมองเห็นอาจนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและปัญหาด้านสุขภาพจิตได้ การรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเมื่อพบอาการผิดปกติจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อหาทางป้องกันและรักษาอย่างเหมาะสมก่อนที่จะสายเกินแก้

หากท่านใดสนใจอยากสอบถามเกี่ยวกับปัญหาด้านสายตาตัดแว่นใส่ไม่ได้ ตัดแว่นแล้วใส่ไม่ได้

สามารถแอดไลน์ของเรามาได้ที่ @187ynehr หรือ ส่งข้อความมาที่ FACEBOOK : ห้องแว่นโอฬาร